[รีวิว:เที่ยวจีน] Let's Go Yunnan Day 2 : เมืองโบราณลี่เจียง มนต์เสน่ห์เมืองมรดกโลก <เที่ยวจีนด้วยตัวเอง 6วัน5คืน แบบพูดจีนไม่ได้>

ในวันที่สองนี้เริ่มต้นด้วยเสียงปลุกจากเพลงพื้นบ้านบนรถไฟ ซึ่งจะเปิดก่อนถึงปลายทางลี่เจียงประมาณครึ่งชั่วโมง พวกเรามาถึงสถานีรถไฟลี่เจียงเกือบ 7 โมงเช้า โดยพวกเรารอที่ขายตั๋วของสถานีรถไฟเปิดตอน 7.30 น. เพื่อที่จะแลกตั๋วรถไฟขากลับคุนหมิงสำหรับวันถัดไปก่อน วันแรกที่พวกเราไม่ได้แลกตั๋วที่คุนหมิงเพราะคุยกับเจ้าหน้าทีไม่ค่อยรู้เรื่อง ถ้าใช้เวลานานกลัวว่าจะตกรถไฟ

เมื่อแลกตั๋วเรียบร้อย ก็เดินทางไปเก็บกระเป๋าไว้ที่พักที่เราเราจะพักกันคืนนี้ที่ Lijiang Rongyi Homestay ซึ่งอยู่ในโซนเมืองโบราณลี่เจียง สามารถดูวิธีการเดินทางและรีวิวโรงแรมได้ที่ Lijiang Rongyi Homestay การเดินทางด้วยรถประจำทางในลี่เจียง ที่ป้ายรถประจำทางจะมีชื่อป้ายตั้งอยู่แต่ว่าบางทีจะเห็นตอนรถออกไปแล้ว หรือ มีคนบังทำให้ไม่เห็นป้าย พวกเราแนะนำให้เปิด Map ไปด้วย จะเป็น Baidu Map หรือ Google Map ก็ได้
หลังจากฝากกระเป๋าเสร็จแล้วพวกเราก็เริ่มเที่ยวกัน โดยในวันนี้พวกเราจะเที่ยวรอบๆเมืองโบราณลี่เจียง  การเดินเที่ยวในเมืองโบราณไม่ยาก เพราะ จะมีแผนที่ และป้ายบอกทางที่มีภาษาอังกฤษกำกับอยู่เป็นระยะในเมืองโบราณ
เมืองโบราณลี่เจียง​ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1997 พื้นที่นี้มีประวัติศาสตร์มานานหลายร้อยปี และเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าน่าซี (Naxi) ที่อพยพมาจากทิเบต มาตั้งแต่สมัยโบราณ เมืองนี้ยังได้รับการขนานนามว่า "เวนิสแห่งตะวันออก" อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA จากทางการจีนอีกด้วย

เมื่อก้าวเข้ามาเขตเมืองโบราณแล้ว จะพบกับบ้านไม้แบบจีนโบราณ ทางเดินปูด้วยหินลื่นขนาดใหญ่ สะพานข้ามลำธารเล็กๆหลากหลายแบบ และ ต้นหลิวริมลำธาร ที่ยังคงรักษาความงามในอดีตไว้ได้เป็นอย่างดี
ในวันนี้พวกเรามีจุดท่องเที่ยวอยู่ 4 ที่หลักๆได้แก่ กังหันยักษ์, Square Street, สระมังกรดำ และ จุดชมวิวทะเลหลังคา
พวกเราเริ่มต้นจากโรงแรมแล้วเดินไปตามริมถนนที่รถวิ่งเลียบเมืองโบราณด้านนอกเพื่อไปยังจุดหมายแรก คือ กังหันน้ำยักษ์ ความจริงสามารถใช้ถนนในเมืองโบราณได้เช่นกัน แต่พวกเราที่ยังไม่แน่ใจทางก็เลยเลือกเดินไปตามถนนใหญ่ แล้วไปเข้าที่ทางเข้าหลักของเมืองโบราณแทน
ระหว่างทางเข้าไปยังกังหันน้ำยักษ์ จะมีสวนสาธารณะ และ ร้านอาหารแฟรนไชส์จากต่างประเทศ ทั้ง แมคโดนัล เคเอฟซี พิซซ่าฮัท และสตาร์บัค ที่ร้านสร้างแและตกแต่งให้กลมกลืนไปกับเมืองโบราณแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีที่ให้แขวนข้อความขอพรอีกด้วย
และเราก็ถ่ายรูปกับมุมมหาชนของเมืองโบราณลี่เจียง คือ กังหันน้ำยักษ์
กังหันยักษ์ (The Giant Water Wheels in Lijiang Old Town, 丽江古城大水车) นับเป็นแลนมาร์กที่สำคัญจุดหนึ่งของเมืองโบราณลี่เจียง เป็นกังหันน้ำโบราณขนาดใหญ่ 2 ตัว และมีลายมือของประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมินว่า “เมืองเก่าลี่เจียง มรดกโลกทางวัฒนธรรม” กังหันน้ำยักษ์อยู่ใกล้ทางเข้าหลักของเมืองโบราณ เป็นอีกจุดหนึ่งที่เมื่อมาถึงเมืองโบราณลี่เจียงแล้วต้องแวะมาถ่ายรูปด้วย ตอนเรามาถึงก็มีนักท่องเทียวถ่ายรูปอยู่เต็มไปหมด อีกทั้งบริเวณนี้มักถูกใช้เป็นจุดนัดพบอีกด้วย
หลังจากถ่ายรูปเสร็จแล้วก็จะไปหาอะไรทานกันที่ Sifen square ระหว่างทางเจอร้านขนมวาฟเฟิลฮ่องกงน่าทาน ก็เลยต้องแวะทานกันซักหน่อย ไม่รู้ว่าเพราะความหิวหรือเปล่าเลยรู้สึกว่าอร่อยมาก โดยเฉพาะแป้งที่กรอบ และยิ่งได้ทานตอนร้อนๆ ในอากาศหนาวๆ รู้สึกฟินมาก
Square Street (四方街) เป็นจุดศุนย์กลางของเมืองโบราณ 4 ถนนสายหลักของเมืองโบราณจะมารวมกันที่นี่ ตรงกลางจะมีพื้นที่เป็นลานกว้าง และมีการแสดงโชว์ของ ชาวน่าซีที่เป็นคนพื้นเมืองของที่นี่ ซึ่งวันหนึ่งจะมีหลายรอบ เราไม่แน่ใจเรื่องเวลาของแต่ละรอบ สามารถสอบถามได้ที่จุดบริการนั่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆ
พวกเรามาถึงช่วงประมาณสิบโมงเช้า ซึ่งใกล้ได้เวลาการแสดงพอดี พวกเราเลยรอชมการแสดงก่อนพักหนึ่ง จะมีชาวบ้านที่แต่งชุดพื้นเมืองมาร้องเพลงพื้นเมืองให้ฟัง มีการแสดงการเต้นแบบพื้นเมือง โดยรอบก็จะมีนักท่องเที่ยวที่มารอชมการแสดง และมีช่วงที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมเต้นด้วยกันกับนักแสดงด้วย
หลังจากชมการแสดงได้ซักพักพวกเรา ด้วยความหิวก็เลยหาร้านอาหารทานกัน โดยเมนูมื้อนี้ คือ ก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพาน ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของยูนนาน พวกเราก็สุ่มมั่วๆเข้าไปร้านนึง สั่งอาหารด้วยการจิ้มรูปจากเมนูเอา ที่เราสั่งเป็นแบบแยกเครื่อง แต่ว่าป้าที่ยกอาหารมาคงเห็นว่าพวกเราเป็นชาวต่างชาติ กลัวว่าพวกเราจะทานไม่เป็นเลยจัดการใส่เครื่องให้เสร็จเลย
หลังจากใส่เครื่องเสร็จเรียบร้อยก็จะมีหน้าตาเป็นแบบนี้
ขนาดชามใหญ่กว่าที่พวกเราคิดไว้มาก พวกเราทานกัน 2 คนยังหมดไปแค่ครึ่งชามก็ทานต่อไม่ไหวแล้ว ก๋วยเตี๋ยวจะคล้ายๆก๋วยเตี๋ยวญวนแต่ว่ารถชาติคนละแบบ เราไม่แน่ใจว่าทุกร้านจะรสชาติเหมือนกันไหมแต่ร้านที่เราไปทาน จะมีกลิ่นพริกจีนเป็นน้ำมันที่พวกเราไม่ค่อยชอบซักเท่าไหร่ แต่ว่าถ้าใครมาเที่ยวที่นี้ก็มาลองทานกันได้ มีขายหลายร้านมากในเมืองโบราณ

หลังจากเติมพลังกันแล้วพวกเราทำการจองทัวร์ที่จะไปภูเขาหิมะมังกรหยก สถานที่ที่ทำให้เกิดทริปนี้ ที่พวกเราจะเดินทางไปในวันรุ่งขึ้น การไปภูเขาหิมะมังกรหยกมีอยู่ 3 วิธีหลักๆ คือ ไปกับทัวร์ เหมารถ และ ไปรถประจำทาง สุดท้ายพวกเราตัดสินใจเลือกจองทัวร์แบบ 1 day-trip โดยให้ที่พักติดต่อให้ โดยทัวร์จะพาขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปบนภูเขา และ Blue-moon Valley โดยจะมีอาหารเที่ยง เสื้อโค้ท และ ออกซิเจนกระป๋องให้ แต่ไม่มีชมโชว์ ราคาคนละ 530 หยวน

เมื่อจัดการเรื่องเที่ยวของวันรุ่งขึ้นเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ไปเที่ยวยังจุดถัดไปที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองโบราณลี่เจียง คือ สระมังกรดำ การเดินไปยังสระมังกรดำ จากกังหันยักษ์ให้เดินไปตามถนนฝั่งตรงข้ามจะมีป้ายบอกตลอดทาง ค่อนข้างไกลนิดหน่อย แต่ระหว่างทางมีต้นไม้ร่มรื่นตลอดทางและร้านค้าขายของ สามารถเดินได้เพลินๆตลอดทาง
สระมังกรดำ (Black Dragon Pool, 黑龙潭) อยู่ภายในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีค่าเข้าชม 80 หยวน สามารถซื้อบัตรได้ที่ฝั่งซ้ายมือของทางเข้า (ถ้าใครจ่ายค่าผ่านเข้าเมืองโบราณแล้วสามารถใช้บัตรเข้าเมืองโบราณเข้าได้ฟรี ไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีก)
สระมังกรดำนี้สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์ชิง จุดเด่นของที่นี่คือความใสของน้ำซึ่งถ้าอากาศเป็นใจให้น้ำนิ่ง จะสามารถมองเห็นภาพสะท้อนของสวนที่มีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะมังกรหยกได้ กล่าวกันว่าทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมะมังกรหยกที่มองจากบริเวณ สระมังกรดำเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของจีน ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA จากทางการจีน ดังนั้นใครทีมาเที่ยวเมืองโบราณลี่เจียงแล้วต้องห้ามพลาดที่นี่เป็นอันขาด
สถานที่ท่องเที่ยวนี้มีจะเป็นการผสมผสานกันของ ศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม วัฒนธรรมของชาวฮั่น ชาวทิเบต และน่าซีไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะตงปาซึ่งจะมีสิ่งที่แสดงถึงวัฒนธรรมตงปาอยู่มากมาย
หลังจากพวกเราเที่ยวเล่น ทั้งถ่ายรูปและนั่งกินลมชมวิวกันอยู่ในสวนนี้อยู่นาน ก็ได้เวลาจะไปยังจุดหมายต่อไป คือ จุดชมวิวทะเลหลังคาที่ Wenchang Palace

จุดชมวิวทะเลหลังคามีอีกแห่งทีมีค่าเข้าชม แต่พวกเราเลือกไปที่จุดฟรีที่ Wenchang Palace ทางไปจุดชมวิวนี้จะเป็นทางเดินขึ้นเขาซึ่งยังอยู่ในเขตเมืองโบราณ ที่ระหว่างทางเป็นบ้านแบบโบราณ และมีบันไดให้เดิน ทางเดินไม่ได้ลำบากอะไร แต่กว่าจะถึงจุดหมายปลายทางก็ค่อนข้างเหนื่อยพอสมควร
ระหว่างทางก็จะมีภาพวาดบนกำแพง ซึ่งเป็นภาพวาดแบบโบราณ หรือ เกี่ยวกับอักษรโบราณสีสันสดใสให้ถ่ายรูปเล่นได้
Wenchang Palace (文昌宫) จะมีลานกว้างอยู่หน้าที่ให้สามารถถ่ายรูปมุมสูงของเมืองโบราณ ที่จะสามารถเห็นหลังคาบ้านแบบจีนโบราณเรียงรายเต็มพื้นที่ ที่เรียกว่า ทะเลหลังคา
ภายใน Wenchang Palace พวกเราเข้าไปแค่โซนด้านหน้านิดหน่อย ทางเข้าจะเป็นประตูแบบจีนโบราณ มีบ้านทรงจีน และมีการปลูกต้นไม้ประดับรอบๆ
เนื่องจากเมื่อคืนนอนมาบนรถไฟหลับไม่ค่อยสนิทเลยอยากพักให้มากหน่อย หลังจากชมวิวเสร็จพวกเราก็เลยกลับที่พักเลย ในระหว่างทางหากเจอที่น่าสนใจก็จะแวะบ้าง และซื้อน้ำขนมกลับเข้าไปทานที่ที่พัก แต่ถ้าหากใครมีเวลาก็สามารถอยู่รอชมเมืองโบราณในยามค่ำคืนได้ ก็จะมีความสวยงานในอีกแบบ
สำหรับเมืองโบราณลี่เจียงนี้หากใครมีเวลาก็สามารถมาเที่ยวค้างที่นี้ซักหลายคืนก็ได้ ทั้งในเมืองโบราณและโดยรอบเมืองลี่เจียง ยังมีที่เที่ยวอีกมากที่พวกเราไม่ได้แวะเที่ยว โดยตอนต่อไปพวกเราจะพาไปขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยก สถานที่ที่เป็นจุดหมายที่คนเที่ยวลี่เจียงต้องแวะไปเที่ยวชมและยังทำให้เกิดทริปนี้ขึ้น ติดตามอ่านได้ที่ Day 3 : ภูเขาหิมะมังกรหยก

<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>
สามารถติดตามตอนอื่นๆของ [รีวิว:เที่ยวจีน] Let's Go Yunnan <เที่ยวจีนด้วยตัวเอง 6วัน5คืน แบบพูดจีนไม่ได้> ได้ที่
Let's Go Yunnan Day 0 : เตรียมตัวก่อนเดินทาง
Let's Go Yunnan Day 1 : บินตรงสู่คุนหมิง-รถไฟนอนไปลี่เจียง
Let's Go Yunnan Day 2 : เมืองโบราณลี่เจียง มนต์เสน่ห์เมืองมรดกโลก
Let's Go Yunnan Day 3 : ภูเขาหิมะมังกรหยก ทิวทัศน์สุดอลังการ
Let's Go Yunnan Day 4 : คุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน
Let's Go Yunnan Day 5 : ผู่เจ่อเฮย ตามรอยสามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น