ในตอนนี้พวกเราจะแนะนำอีกหนึ่งเส้นทางเที่ยวจากโตเกียวแบบ ไปเช้า-เย็นกับ ด้วย JR TOKYO Wide Pass โดยไปชมดอกซากุระเมืองกุนมะ สำหรับใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วลงที่โตเกียวแล้วยังไม่มีแผนไปไหน เมืองกุนมะเองก็เป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจสามารถเดินทางไป-กลับโตเกียวภายในวันเดียวได้
DAY 4 : Akagi Nanmen Senbonzakura Festival
หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้วพวกเราก็เดินทางไปเมืองกุนมะ โดยนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีอุเอโนะ(ไม่สามารถใช้ JR TOKYO Wide Pass) แล้วใช้ JR TOKYO Wide Pass ต่อรถไฟชินคันเซนที่ ซึ่งพวกเราได้จองที่นั่งไว้ก่อนแล้ว เพื่อไปลงสถานีทาคาซากิ
เมื่อถึงสถานีทาคาซากิ ให้เปลี่ยนขบวนเพื่อไปลงสถานี Maebashi เมื่อถึงสถานีแล้วให้เราออกทางออกทางทิศใต้ ให้สังเกตุป้ายบอกทางออกอยู่ ตอนที่พวกเรามาถึงมีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์งานเทศกาลยืนบอกทางอยู่อีกด้วย ออกจะประตูจะเห็นโต๊ะขายบัตรตั้งอยู่
สามารถซื้อบัตรจากเจ้าที่ได้เลย โดยบัตรจะรวมค่ารถบัสจากสถานี Meabashi ไป-กลับ Gunma Flower Park และ Akagi Nanmen Senbonzakura Festival โดยบัตรนี้สามารถเข้า Gunma Flower Park ได้ฟรี ตัวบัตรเป็นกระดาษธรรมดา ระบุวันที่ไว้ที่บัตร
สำหรับ Akagi Nanmen Senbonzakura Festival ในแต่ละปีจะจัดไม่ตรงกันขึ้นกับการบานของดอกซากุระในปีนั้นๆ โดยสามารถดูวันที่จัดงานรวมถึงคาดการณ์ดอกซากุระบาน และรายละเอียดต่างๆของงาน(ภาษาญี่ปุ่น) ได้ที่ http://maebashi-cvb.com/event/03_senbonsakura/index.htm ซึ่งจะมีลิงค์ให้ชมภาพสดๆจากสถานที่จัดงาน เพื่อที่จะได้ตัดสินใจได้ว่าเราไปดีไหม พวกเราเองก็มีเช็คก่อนเดินทางมาญึ่ปุ่นแล้ว ว่าจะเจอดอกซากุระที่ฟลูบูม ซึ่งถ้าดอกซากุระยังไม่บานหรือร่วงไปแล้วพวกเราก็มีเตรียมแผนสำรองไว้
เมื่อซื้อบัตรเรียบร้อยแล้วก็รอขึ้นรถบัส โดยมีห้องให้ผู้โดยสารนั่งพักระหว่างรอรถบัสมารับอยู่ข้างๆที่ขายบัตร สำหรับรอบรถบัสสามารถดูได้ที่เอกสารประชาสัมพันธ์งานจาก http://maebashi-cvb.com/event/03_senbonsakura/index.htm ซึ่งแต่ละปีอาจจะมีการเลื่อนเวลาในส่วนของนาทีบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมรอบรถจะเหมือนเดิม ในปี 2019 รอบการเดินรถบัสเป็นตามภาพข้างล่าง
รถบัสเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จะถึง Akagi Nanmen Senbonzakura Festival พวกเราประทับใจตั้งแต่ที่จอดรถและทางขึ้นเลย ต้นซากุระขนาดใหญ่ที่มีดอกบานเต็มต้นเรียงเป็นทางต้อนรับนักท่องเที่ยว
พอเข้าไปในงานช่วงต้นทางจะโซนร้านขายอาหาร มีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และมีที่นั่งสำหรับให้รับประทานอาหาร โซนนี้คนจะค่อนข้างแน่นเนื่องจากเป็นทางที่จะขึ้นไปจุดชมซากุระ และทางที่จะกลับไปที่จอดรถ และยังมีคนที่ต่อแถวซื้ออาหาร พวกเราก็ได้แวะทานอาหารที่นี่เช่นกัน
พอผ่านโซนขายอาหารแล้วจะเป็นดอกซากุระที่บานเต็มพื้นที่ ตรงถนนจะมีต้นซากุระขนาดใหญ่สองข้างทางเป็นทางเดินอุโมงค์ซากุระ ส่วนที่เป็นสนามสามารถนำเสื่อมาปูนั่งปิกนิคได้ คนญี่ปุ่นเองก็พาครอบครัวมาพักผ่อนกันเยอะ ต้นซากุระที่นี่มีกิ่งที่โน้มลงมาต่ำสามารถเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆได้ แต่ต้องระวังอย่าไปโดนหรือเด็ดดอกซากุระมาถ่ายรูปเด็ดขาด ที่นี่มีดอกซากุระอยู่หลายสายพันธุ์ ในวันที่พวกเรามาถึงมีบางสายพันธุ์ยังไม่บานเต็มที่ แต่ส่วนใหญ่ก็บานเต็มที่แล้ว
หลังจากเดินถ่ายรูปอยู่นานจนได้ใกล้เวลารถออก พวกเราก็กลับไปขึ้นรถบัสที่จุดเดิมที่ลง เพื่อนั่งรถไปลง Gunma Flower Park พอถึงทางเข้าให้แสดงตั๋วที่ซื้อไว้ให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่ก็จะให้เราเข้าได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ภายในสวนช่วงที่เราไปเป็นช่วงของดอกทิวลิป ซึ่งถ้ามาช่วงเวลาอื่นก็จะเป็นดอกไม้ตามแต่ช่วงเวลานั้นๆ ภายในสวนมีร้านขายของฝากและมีลานกิจกรรม ตอนเราไปมีการแสดงเครื่องดนตรีพื้นบ้านของญี่ปุ่นอยู่ด้วย
ขากลับจาก Gunma Flower Park ให้ดูป้ายรถบัสที่จะขึ้นให้ดี จะมี 2 ป้าย สำหรับไปสถานีรถไฟ Meabashi และ Akagi Nanmen Senbonzakura Festival
หลังจากกลับมาเก็บของที่โรงแรมแล้วก็ออกไปชอปปิ้งที่ดองกี้ โดยสามารถเดินไปจากโรงแรมได้ ในระหว่างทางพวกเราได้เจอร้านชีสทอดเกาหลี ชื่อร้าน ARIRANG HOTDOG เลยแวะทานกันซักหน่อย
บรรยากาศอาซากุสะตอนกลางคืนก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวมาเดินกันอยู่พอสมควร แต่ร้านค้าบริเวณนั้นที่เปิดอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารและร้านเหล้า ส่วนร้านที่ปิดอยู่ก็จะมีภาพวาดอยู่ที่ประตูร้านที่ปิดอยู่เป็นบรรยากาศที่สวยอีกแบบไม่แพ้ตอนกลางวันเลยที่เดียว สำหรับใครที่พักอยู่แถวนี้ก็สามารถมาเดินถ่ายรูปได้บรรยาการยามค่ำคืนได้สวยไปอีกแบบ
ส่วนในวันรุ่งขึ้นที่พวกเราจะไปเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะกัน สามารถอ่านได้ที่รีวิวไว้ใน ตอนที่ 5 - ขับรถเที่ยวรอบทะเลสาบคาวากูจิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น